เดินเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์และทำกิจกรรมมากมาย

หากคุณกำลังวางแผนมาเที่ยวชมความงามของทุ่งลาเวนเดอร์ในฮอกไกโดช่วงหน้าร้อน ที่เริ่มผลิดอกบานสะพรั่ง ดั่งกำลังยิ้มรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศให้มาเยี่ยมชม พร้อมทำกิจกรรมแสนสนุกสุดประทับใจ เรายินดีที่จะเป็นเพื่อนคู่คิด ช่วยวางแผนและแนะนำกิจกรรมดี ๆ ให้คุณในบทความนี้ เพราะเราอยากให้คุณมีแต่ช่วงเวลาดี ๆ ในฮอกไกโดช่วงฤดูร้อน แม้นอนหลับฝันก็ยังคิดถึงแต่ทริปนี้ในทุกคืนวัน

เยือนทุ่งลาเวนเดอร์แห่งแรก ที่ทุ่งดอกไม้กามิฟูราโน่

ที่แรกที่เราแนะนำนี้ เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงของเมืองฟูราโน่ ตั้งอยู่บนเนินเขาในฮอกไกโดที่มองเห็นวิวเทือกเขาโทกาชิได้อย่างชัดเจน ทุ่งลาเวนเดอร์นี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรี แต่ปิดให้เข้าชมช่วงเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ภายในฟาร์มจะมีรถแทรกเตอร์พานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมดอกไม้สีสันสดใสอย่างท่ัวถึง

หากชมวิวจนพอใจก็สามารถไปเปิดประสบการณ์ตัดดอกลาเวนเดอร์ ทำดอกไม้ทับแห้ง ทำหมอนจากบัควีทและดอกลาเวนเดอร์แห้งเพื่อเป็นของที่ระลึกได้ แล้วค่อยแวะไปลิ้มรสไอศกรีมจากดอกลาเวนเดอร์และเครื่องดื่มรามูเนะ (มะนาวโซดา) กลิ่นลาเวนเดอร์ก็ละมุนหัวใจไม่แพ้กัน

ฟาร์มโทมิตะ จุดชมทุ่งลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุด

หลายคนคงคุ้นหูกับฟาร์มแห่งนี้ เพราะเป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่แต่งแต้มความสวยงามตามธรรมชาติด้วยวิวภูเขาโทกะชิ จึงเป็นจุดที่ดีที่สุดของจังหวัดฮอกไกโดและโด่งดังมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยว เมื่อก้าวเท้าเข้าไปจะเจอ 10 สวนดอกไม้ที่ถูกแบ่งย่อยออกตามฤดูกาลและสายพันธุ์ มีให้เลือกเดินชมทั้งแบบกลางแจ้งและเรือนเพาะชำ ในบริเวณใกล้ ๆ สวนดอกไม้ก็จะมีจุดขายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งไปฝากคนที่รักมากมาย

ฟาร์มนี้มีหลากกิจกรรมให้คุณเข้าร่วม ทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของฟาร์ม สาธิตการทำน้ำมันหอมระเหยและถุงหอม กิจกรรมเวิร์คช็อปต่าง ๆ รวมถึงชิมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์แบบฟิน ๆ

ทำน้ำหอมที่ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุด

ใครชอบน้ำหอมต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนที่ฟาร์มลาเวนเดอร์ตะวันออก เพราะนอกจากจะเป็นทุ่งดอกไม้แห่งที่ 2 ของฟาร์มโทมิตะแล้ว ก็ยังเป็นหนึ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ไฮไลท์อยู่ที่การผลิตน้ำหอมจากดอกลาเวนเดอร์ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีที่ได้ทำกลางทุ่งดอกไม้ใหญ่แห่งนี้ นอกจากนี้ยังใช้รถบัสลาเวนเดอร์ (Lavender Bus) เพื่อขึ้นไปชมวิวยังชั้นดาดฟ้าได้ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ ¥ 200 แต่ต้องจำไว้ว่าทุ่งลาเวนเดอร์นี้เปิดให้เข้าชมแค่เดือนกรกฎาคมเท่านั้น

ชมวิว 360 องศาที่ทุ่งลาเวนเดอร์ฮิโนเดะโคเอน

ใครอยากมองวิวสุดลูกหูลูกตาแบบ 360 องศาต้องไปที่นี่ เพราะคุณจะได้ชมทิวทัศน์ที่กว้างไกลพร้อมเดินเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ที่บานก่อนทุ่งอื่น ๆ จุดเด่นของทุ่งนี้คือเป็นทุ่งที่เอียงลาดลงมาตามเนินอย่างสวยงาม ชวนให้เดินเล่นเพลิน ๆ ชมดอกไม้สีสดเพื่อพักสายตาอย่างเต็มที่

ภายในทุ่งนี้จะมีระฆังแห่งรักตั้งไว้ตรงกลาง คู่รักนิยมมาเคาะเพื่อให้สมหวังในความรัก และหากคุณกำลังจะแต่งงานก็สามารถมาถ่ายพรีเวดดิ้งหรือจัดงานแต่งที่นี่ได้เลย

ดูวิวเทือกเขาที่ทุ่งลาเวนเดอร์มิยามะ

จุดสุดท้ายที่เราแนะนำคือทุ่งลาเวนเดอร์ริมทางหลวงหมายเลข 237 อย่างทุ่งมิยามะ ทุ่งนี้จะเป็นเนินเตี้ย ๆ ริมถนน มองเห็นเทือกเขาโทคาคิดิเกะอย่างชัดเจน โดยจุดเด่นของที่นี่คือการชมวิวทั้งหมดในวันที่แดดจ้า เพราะคุณจะเห็นองค์ประกอบอันแสนงดงามที่ธรรมชาติสร้างทั้งหมดอย่างเด่นชัดในครั้งเดียว จนกลายเป็นภาพความประทับใจที่คุณไม่อยากจะละสายตาหรือจากที่นี่ไปเลย

อ่านมาถึงตรงนี้คงอดใจไม่ไหวที่จะมาชมความสวยของทุ่งลาเวนเดอร์ด้วยตาตัวเองแล้วใช่ไหม? ดังนั้นรีบกดจองที่พักอย่างคลับเมด ซาโฮโร่ ฮอกไกโด (Club Med Sahoro Hokkaido) และคลับเมด โทมามุ ฮอกไกโด (Club Med Tomamu Hokkaido) และตะลุยเที่ยวชมทุ่งลาเวนเดอร์ พร้อมทำกิจกรรมตามใจต้องการกันเลย