พร้อมหาพาร์ทเนอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รับการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว

• ในช่วง 2 ปีนี้ คลับเมดเปิดรีสอร์ตใหม่ 4 แห่ง ใน 4 ทวีป ได้แก่ คลับเมด ลาโคซิแยร์ ประเทศฝรั่งเศส ในเดือน ธันวาคม 2564, คลับเมด เซเชลส์ ในเดือน มีนาคม 2564, คลับเมด ลี่เจียง ประเทศจีน ในเดือน กันยายน 2564 และ เร็วๆนี้ คลับเมด ควิเบก ชาร์เลอวัวร์ ประเทศแคนาดา ในเดือนธันวาคม 2564

• ในราวปี 2566 คลับเมดจะเปิดรีสอร์ตติดชายหาดแห่งใหม่อีกแห่ง ที่โกตากีนาบาลู เกาะบอร์เนียว อันเป็นความร่วมมือด้านการลงทุนกับ โกลเดน แซนด์ บีช รีสอร์ต ซิตี้

• คลับเมดพร้อมหาผู้ร่วมลงทุน และพาร์ทเนอร์ เพื่อขยายรีสอร์ตเพิ่มเติมในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้

ประเทศไทย, 27 กันยายน 2564 – คลับเมด ผู้นำด้านบริการแพ็กเกจที่พักแบบเหมาจ่าย พรีเมียมออลอินคลูซีฟ กางแผนขยายการลงทุน รองรับการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เตรียมเปิดรีสอร์ตใหม่อีกแห่งที่โกตากีนาบาลู บนเกาะบอร์เนียว พร้อมหาโอกาสขยายรีสอร์ตเพิ่มเติมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย

สัญญาณการเติบโตในทางบวก ช่วงเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว

ในช่วงเวลานี้ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย ค่อนข้างระมัดระวังในการพิจารณาเปิดพรมแดนเพื่อการท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคอื่น จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่โรงแรมต่างๆจะใช้ช่วงเวลานี้ปรับปรุงการบริการ พร้อมยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัว จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ ทำให้เห็นศักยภาพและความยืดหยุ่นด้านการจัดการของคลับเมด อันเห็นได้จากการกลับมาเปิดให้บริการรีสอร์ตอีกครั้ง ทั้งในประเทศจีน และ มัลดีฟส์ ตลอดจนถึง อเมริกาเหนือ แคริเบียน และ ยุโรป

โดยในปี 2564 การท่องเที่ยวภายในประเทศ ไปยังคลับเมดรีสอร์ตในประเทศจีน เพิ่มขึ้นกว่า 2.5 เท่า และยังเป็นปริมาณการเข้าพักที่มากกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด ในขณะที่คลับเมดรีสอร์ตในมาเลเซีย ก็มีปริมาณการเข้าพักมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงที่มาเลเซียได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างรัฐ ก่อนการประกาศมาตรการ Movement Control Order (MCO) ครั้งล่าสุด นอกจากความสำเร็จด้านการจัดการรีสอร์ตที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว คลับเมดยังมีรีสอร์ตที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และเตรียมเปิดรีสอร์ตเพิ่มเติมเร็วๆนี้

ฌ็อง-ชาร์ล ฟอร์ตูล ประธานกรรมการบริหารรีสอร์ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คลับเมด กล่าวว่า “ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 สถานะของคลับเมดยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และพร้อมรับการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างรวดเร็วและแข็งแรง นอกจากนี้คลับเมดมีประสบการณ์อย่างยาวนานในอุตสาหกรรมกว่า 70 ปี เป็นผู้นำเปิดตลาดด้านการท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ อาทิ คลับเมด เซเชลส์ และ คลับเมด ลี่เจียง ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนาล่าสุด ที่คลับเมดได้ลงทุนก่อสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงโครงการ คลับเมด บอร์เนียว โกตากีนาบาลู ที่คาดว่าจะพร้อมเปิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จากผลสำเร็จของโครงการดังกล่าว รวมถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของ ประเทศไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัว เราจึงกำลังมองหานักลงทุน หรือพาร์ทเนอร์ ที่สนใจพัฒนารีสอร์ตในตลาดที่มีศักยภาพเหล่านี้”

รีสอร์ตขนาดใหญ่ริมหาดแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม BREEAM

ในปี 2566 คลับเมดจะเปิดรีสอร์ตแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ โกตากีนาบาลู บนเกาะบอร์เนียว อันเป็นความร่วมมือด้านการลงทุนกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โกลเดน แซนด์ บีช รีสอร์ต ซิตี้ (GSBRC) ทั้งนี้ คลับเมดบอร์เนียว โกตากีนาบาลู สร้างบนพื้นที่ราว 104 ไร่ (41 เอเคอร์) และเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ของรัฐซาบาห์ ที่ขึ้นชื่อด้านความงดงามของธรรมชาติ โดยในปัจจุบันสามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวก ใช้เวลาในการเดินทางราว 6 ชั่วโมง จากประเทศหลักๆในเอเชีย ด้วยศักยภาพของที่ตั้งของรีสอร์ต รวมถึงการเป็นรีสอร์ตในระดับพรีเมียม คลับเมดมั่นใจว่าจะดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักสูงอย่างต่อเนื่อง

ปีเตอร์ หว่อง กรรมการผู้จัดการ โกลเดน แซนด์ บีช รีสอร์ต ซิตี้ กล่าวว่า “คลับเมดเป็นบริษัทที่มีความโดดเด่น และน่าสนใจที่จะให้บริหารรีสอร์ต เนื่องจากคลับเมดมีความเชี่ยวชาญในการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และยกระดับการเข้าพักที่รีสอร์ต เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคลับเมดที่จะช่วยให้แขกผู้เข้าพักเข้าถึงทุกสัมผัส และเชื่อมโยงทางอารมณ์ความรู้สึก ที่คลับเมดบอร์เนียว โกตากีนาบาลู จนเกิดเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจยังจุดหมายปลายทางที่เป็นสวรรค์อย่างแท้จริง”

ด้วยโมเดลทางธุรกิจที่แตกต่าง ทำให้มีความต้องการเข้าพักสูง
ความสำเร็จของคลับเมด เห็นได้จากอัตราการเติบโตแบบปีต่อปี เฉลี่ย 5 เปอร์เซ็นต์ อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีแขกเข้าพักยังคลับเมดรีสอร์ตอย่างต่อเนื่องกว่า 1.4 ล้านคน สร้างรายได้มากกว่า 1.7 ล้านยูโร ในปี 2562 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วโลกก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เฉลี่ยที่ 75 เปอร์เซ็นต์ ในรีสอร์ตแถบเอเชียตะวันออกและใต้ และแปซิฟิก ส่วนที่อัฟริกา และยุโรป เฉลี่ยที่ 76 เปอร์เซ็นต์ และรีสอร์ตในอเมริกาเหนือเฉลี่ยที่ 78 เปอร์เซ็นต์

ยกระดับโมเดลการท่องเที่ยวแบบแพ็กเกจเหมาจ่าย
คลับเมดเป็นผู้นำด้านแพ็กเกจที่พักแบบพรีเมียมเหมาจ่าย ภายในรีสอร์ตมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย ทั้งกีฬาแนวแอดแวนเจอร์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และกิจกรรมแนวครอบครัว ผู้เข้าพักสามารถเข้าถึงทุกสัมผัสและบรรยากาศของจุดหมายปลายทาง ที่ผสานสิ่งอำนวยความสะดวกในรีสอร์ต เข้ากับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติอย่างลงตัว พื้นที่ภายในรีสอร์ตออกแบบให้เชื่อมโยงกับทุกพื้นที่ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเข้าพักแบบคลับเมดอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งเพื่อการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การรับประทานอาหาร และความบันเทิง ตลอดจนพื้นที่สำหรับการพักผ่อนอย่างเงียบ หรือพื้นที่สำหรับเด็กๆและครอบครัว คลับเมดเป็นผู้นำด้านวันหยุดพักผ่อนแบบออลอินคลูซีฟ รวมทุกอย่างราคาเดียว ที่ได้สร้างประสบการณ์การพักผ่อนมากกว่า 70 ปี โดยมีรีสอร์ตให้บริการกว่า 70 แห่งทั่วโลก

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลับเมด www.clubmed.co.th